น่าจะพอเรียกศรัทธาจากแฟนบอลคืนมาได้บ้างสำหรับไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ของกุนซืออาร์แซน เวนเกอร์ เมื่อเป็นฝ่ายบุกไปอัด เอซี มิลาน ในศึกยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรกมาได้ 2-0 กุมความได้เปรียบเอาไว้ ก่อนกลับไปเล่นเกมเลกสองในเอมิเรตสเตเดี้ยม
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานสุดบู่พ่ายแพ้มาสามเกมติด ทั้งเกมนัดชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพที่พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเกมลีกที่ถูกทางเรือใบย้ำแค้น รวมถึงการบุกพ่าย ไบรท์ตัน จนแทบจะโบกมือลาโอกาสในการลุ้นจบท็อปโฟร์ฤดูกาลนี้แล้ว
ทั้งนี้เดอะกันเนอร์สของ อาร์แซน เวนเกอร์ ลงเล่นเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปใบเล็กค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์หลังพิงฝา เพราะเป็นเพียงรายการเดียวที่พวกเขายังพอมีหวังความสำเร็จ
อีกทั้งถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จคว้าถ้วยได้จริง ก็จะทำให้พวกเขาคว้าโควตาลุยถ้วยยุโรปใบใหญ่ฤดูกาลหน้าโดยไม่ต้องติดหนึ่งในสี่อันดับแรกของลีกด้วย ทำให้ก่อนเกมถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นเกมที่แตกต่างจากหลายเกมที่ผ่านมาของไอ้ปืนใหญ่แม้ว่าจะเป็นการเล่นใน ซานซิโร่ สเตเดี้ยม บ้านของปีศาจแดงดำก็ตาม
และเมื่อเกมเริ่มคิกออฟขึ้นทีมเยือนก็ทำได้ดีตามคาด ถึงแม้ว่ารูปแบบการเล่นจะผิดแปลกไปจากไอ้ปืนใหญ่ในแบบฉบับที่คุ้นเคย ไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอลครองเกมได้มากกว่าคู่แข่งก็ตาม โดยได้ประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 15 จาก เฮนริค มคิตาร์ยาน
ก่อนที่นาทีสุดท้ายของครึ่งเวลาแรกจะเป็น อารอน แรมซี่ย์ ที่มาได้สกอร์หนีห่างให้เป็น 2-0 ซึ่งกลายเป็นสกอร์ปิดกล่องไปในที่สุด
หลังทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มเติมไม่ได้ในครึ่งเวลาหลังทำให้ไอ้ปืนใหญ่กุมความได้เปรียบเอาไว้ได้ก่อนมากทีเดียวจากทั้งชัยชนะด้วยผลต่างสองสกอร์ และเป็นอเวย์โกล หรือประตูทีมสองประตูด้วยเช่นกัน